สมัยก่อนพุทธกาลถึงพุทธศตวรรษที่ 11-15 หรือระหว่าง พ.ศ. 1,000-1,500 ครอบคลุมบริเวณสองฝั่งแม่น้ำโขง ตั้งแต่จังหวัดอุดรธานี จังหวัดหนองคาย จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดนครพนม จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดสกลนคร จังหวัดขอนแก่น จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดอุบลราชธานีของไทย แขวงบอลิคำไซ แขวงคำม่วน แขวงสุวรรณเขต แขวงเวียงจันทน์ แขวงสาละวัน แขวงจำปาศักดิ์ แขวงอัตตะปือ และแขวงเซกองของลาว
ชนชาติดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในอาณาจักรศรีโคตรบูรและสถาปนาอาณาจักรอาจเป็นชาวลาว ข่า ขอม ภูไท โย้ย จาม และชาติพันธุ์ดั้งเดิมอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่ในลาวและภาคอีสานปัจจุบันนี้ จากการค้นพบใบเสมาและหลักหินโบราณหลายสิบแห่งที่กระจายอยู่ในจังหวัดนครพนม-แขวงคำม่วน และการค้นพบหลักหินและใบเสมาใต้พื้นดินจำนวนมากถึง 473 หลัก ที่กระจุกตัวอยู่บริเวณหอหลักเมืองเวียงจันทน์ ตลอดจนการค้นพบซากกำแพงหินยักษ์ซึ่งสร้างจากฝีมือมนุษย์ที่แขวงคำม่วน ได้ยืนยันถึงความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรโคตรบูรอย่างมาก
คัมภีร์อุรังคธาตุนิทาน ตอนพระพุทธเจ้าเสด็จมากล่าวคำวุฒิสวัสดีและรับบิณฑบาตแก่พระยาศรีโคตรบูร นักวิชาการบางกลุ่มเห็นว่า คำว่า โคตร อาจมาจากคำว่า โคตระ หรือ โคตรกระ (อ่านว่า โคด-กะ) อันมีที่มาเชื่อมโยงกับพระนามของกษัตริย์แห่งอาณาจักรที่ทรงมีตระบองขนาดใหญ่เป็นอาวุธ เป็นเหตุให้พระนามและอาณาจักรของพระองค์ถูกเรียกว่า โคตรบอง หรือ โคตรกระบอง
ตามจดหมายเหตุของจีน เรียกว่า ฟูนัน ตรงกับคำว่า พนม ตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายและขวาของแม่น้ำโขง บางแห่งได้กล่าวไว้ว่า อาณาจักรฟูนันได้สร้างขึ้นในพุทศตวรรษที่ ๗ โดยชาวอินเดียที่เป็นพราหมณ์ชือ โกนฑัญญะ ผู้สถาปนาราชวงศ์ " กษัตริย์แห่งภูเขา" ไสเรนทร ได้แล่นเรื่อสำเภาเข้ามายังประเทศฟูนัน แล้วได้สมรสกับบุตรีผู้ครองอาณายจักรโคตรบูร ชือ นางนาคินีใสมะ และได้เป็นกษัตริย์ของขอมเมื่อราว พ.ศ. ๖๐๐ พร้อมตั้งอาณาจักรทางฝ่ายใต้อขตนเองขึ้นมารใหม่เรียกว่า อาณาจักรวิยัธปุระ
อาณาจักรโคตรบูรนับถือพระพุทธศาสนาซึ่งมีทั้งพระพุทธศาสนาแบบเถรวาท และพระพุทธศาสนาแบบมหายาน รวมไปถึงพระพุทธศาสนานิกายตันตระยานหรือวัชรญาน ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ศาสนาผีแถน-ผีบรรพบุรุษ และลัทธินับถือนาค มีการสร้างพระเจดีย์สำคัญเป็นสัญลักษณ์ของอาณาจักร คือ พระธาตุพนม ในอำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม นอกจากนี้ยังมีพระธาตุโพนจิกเวียงงัว พระธาตุหล้านองหรือพระธาตุกลางน้ำ ในจังหวัดหนองคาย พระธาตุนารายณ์เจงเวง พระธาตุภูเพ็ก พระธาตุดุม ในจังหวัดสกลนคร พระธาตุขามแก่น ในจังหวัดขอนแก่น พระธาตุยาคู ในจังหวัดกาฬสินธุ์ พระธาตุนาดูน ในจังหวัดมหาสารคาม พระธาตุหนองสามหมื่น ในจังหวัดชัยภูมิ พระธาตุศรีโคตรบอง พระธาตุตุ้มพะวัง ในแขวงคำม่วน พระธาตุอิงฮัง ในแขวงสุวรรณเขต พระธาตุหลวงหรือพระธาตุโลกะจุลามะนี ในแขวงเวียงจันทน์ พระธาตุกะเดาทึก พระธาตุหงทอง ในแขวงสาละวัน เป็นต้น อีกทั้งมีการสร้างรอยพระพุทธบาทกระจายอยู่หลายแห่ง อาทิ พระพุทธบาทบัวบก พระพุทธบาทบัวบาน ในจังหวัดอุดรธานี พระพุทธบาทเวินปลา ในอำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม พระพุทธบาทภูน้ำลอดเชียงชุมหรือพระธาตุเชิงชุม ในจังหวัดสกลนคร พระพุทธบาทโพนสัน ในเมืองท่าพระบาท แขวงบอลิคำไซ เป็นต้น นอกจากนี้ อาณาจักรศรีโคตรบูรยังมีการสร้างพระพุทธรูปที่สำคัญและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตนไว้หลายแห่ง อาทิ กลุ่มพระพุทธรูปวังช้าง ในเมืองโพนโฮง แขวงเวียงจันทน์ พระพุทธรูปองค์ตื้อ บนภูพระในจังหวัดชัยภูมิ พระพุทธไสยาสน์ภูปอ บนพุทธสถานภูปอในจังหวัดกาฬสินธุ์ พระพุทธรูปมิ่งเมือง ในอำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม เป็นต้น ลักษณะทางศิลปกรรมดังกล่าวนี้มีความแตกต่างจากกลุ่มวัฒนธรรมแบบทวารวดีอย่างเห็นได้ชัด
แต่แล้ว อาณาจักรทั้ง สามก็ขึ้นอยู่กับขอมทั้งหมด โดยเริ่มจากการได้อาณาจักรโคตรบูรก่อน เมื่อราว พ.ศ. ๑๒๐๐ และได้อาณาจักรทวารวดี เมื่อ พ.ศ. ๑๔๐๐ แต่กระนั้นขอมเองก็ยังแยกกันออกเป็น ๒ อาณาจักร คือ เมื่อต้นพุทธศตวรรษที่ ๗ พราหมณ์ผู้หนึ่งชื่อโกณทัญญะ เป็นผู้ครอบครองอาณาจักวิยัธปุระ อยู่ทางใต้ของอาณาจักรโคตบูร และยังมีขอมอีกผู้หนึ่งชื่อกัมพู เป็นผู้ตั้งอาณาจักรขึ้นทางเหนือ เรียกชื่ออาณาจักรใหม่นี้ว่า "อาณาจักรกัมพูปุระ" อาณาจักรทั้งสองรบพุงกันชิงชัยกันอยู่หลายคราว ผัดกันแพ้ผลัดกันชนะเรื่องมาจนถึง พ.ศ. ๑๓๔๕ อาณาจักรกัมพุปุระเป็นฝ่ายมีชัย จึงทำให้มีอำนาจแผ่ขยายออกไปถึงส่วนกลางของแหลมทอง ตีเอาอาณาจักรของชาติละว้าไหว้ได้หมดสิ้นใน พ.ศ. ๑๔๐๐ แล้วแบ่งการปกครองเป็น
อาณาจักรยาง หิรัญเงินยาง น่านเจ้า อยู่ในความคุมครองและจะต้องส่งส่วยอากรทุกปี
อาณาจักรโคตรบูร รวมกันเข้ากับอาณาจักรของขอม
อาณาจักรทวาราวดี แบ่งออกเป็น ๓ มณฑล ด้วยกันคือ มณฑลฝ่ายใต้มีเสมืองละโว้เป็นศุนย์กลาง มณฑลฝ่ายเหนือมีเมืองสยาม สุโขทัย เป็นศุนย์กลางและมีเมื่องหริภุญชัย ลำพูนเป็นเมืองลูกหลวง
เรียบเรียง และถ่ายภาพประกอบ จากสถานที่จริง โดย ken@dventure
ข้อมูลอ้างอิงจาก ประวัติสารคดี วิทย์ พิณคันเงิน มิถุนายน ๒๕๐๑
วิกิพีเดีย บางส่วน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น